(28 กุมภาพันธ์ 2567) จากกรณีเพจชื่อดังในโลกออนไลน์แชร์ประเด็น “บรรดาคุณครูฝากตั้งคำถามมาครับหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติยกเว้นให้ครูไม่ต้องอยู่เวรยามในโรงเรียนแล้วแต่ผู้บริหารสถานศึกษากลับมีคำสั่งให้ ตรวจตรา แทนกัน แบบนี้ได้หรือครับ ศธ.360 องศา มีคำชี้แจงให้คุณครูไหมครับ” นั้น
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ห่วงใยความปลอดภัยของครู และให้ความสำคัญกับการลดภาระครู การคืนความสุขให้ครูมาตลอด โดยเน้นย้ำกับผู้บริหารสถานศึกษาในเรื่องยกเว้นให้ครูไม่ต้องอยู่เวร แต่ยังมีผู้อำนวยการโรงเรียนบางแห่งอาจมีความกังวลเมื่อไม่มีครูเวร ทั้งที่มีข้อสั่งการชัดเจนจาก สพฐ. มีหนังสือแจ้งไปยังพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศให้เข้าใจและถือปฏิบัติร่วมกัน
ทั้งนี้ผู้บริหารสถานศึกษาที่ยังมีความกังวลอยู่ สามารถนำมาตรการของโรงเรียนขนาดใกล้เคียงกัน ที่ดำเนินการยกเลิกเวรครู แล้วใช้แนวทางอื่นมาช่วยในการรักษาความปลอดภัย เช่น การใช้พนักงานรักษาความปลอดภัยการติดตั้งกล้องวงจรปิด การประสานกับฝ่ายปกครองในพื้นที่หรือประสานตำรวจมาติดตั้งตู้แดงช่วยตรวจตรา การใช้ระบบแจ้งเตือนผู้บุกรุก เป็นต้น มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องเพื่อนครู ตลอดจนลดภารกิจที่ไม่จำเป็นตามนโยบายลดภาระครู ให้ครูทั้่งประเทศได้มีเวลาในการจัดเตรียมการเรียนการสอนอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นไปตามมติ ครม. และประกาศของ ศธ. ด้วย
“ตอนนี้ต้องขอบคุณโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติตาม ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยคืนความสุขให้กับครู คืนเวลาสอนในชั้นเรียน ครูก็จะลดภาระลงได้ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” โดยได้มีการสอบความความเห็นครูหลังจากประกาศยกเลิกไม่ต้องมาอยู่เวร พบว่าครูทุกท่านต่างเห็นด้วยและมีความสุขกับนโยบายนี้ รมว.ศธ. จึงฝากกำชับว่าทุกโรงเรียนต้องดำเนินการและปฏิบัติตาม มติ ครม. และประกาศของ ศธ. อย่างเคร่งครัด หากพบข้อมูลว่าสถานศึกษาใดยังไม่ปฏิบัติตามสามารถแจ้งข้อมูล หรือร้องเรียนการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ที่ศูนย์บริการประชาชน สายด่วน 1579 ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้เชื่อมั่นว่ากระทรวงศึกษาธิการพร้อมและมุ่งมั่นที่จะดำเนินการทุกแนวทางเพื่อลดภาระครู คืนครูให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ที่ปลอดภัย” โฆษก ศธ. กล่าว
ทั้งนี้ ศธ. ได้ตั้งเรื่องเสนอของบประมาณปี 2567 เพื่อจ้างนักการภารโรงให้ทุกโรงเรียนที่ยังขาดอยู่ โดยสามารถเริ่มจ้างได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ในงบประมาณปี 2568 ยังจะมีการดำเนินการจ้างเพิ่มอีก รวมเป็นเงินกว่า 2 พันล้านบาท และจะดำเนินการของบประมาณในปีต่อ ๆ ไปด้วย